วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561

3.ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์


3.ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์


                       คอมพิวเตอร์มีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยประโยชน์ทางตรง คือ คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างเที่ยงตรง รวดเร็ว ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ส่วนประโยชน์ทางอ้อม คือ ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มพูนความรู้และสามารถเรียนรู้ได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งช่วยพัฒนาระบบงานในด้านต่างๆ ซึ่งสามารถสรุปประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ได้ดังต่อไปนี้


1. ด้านการศึกษา
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
                - ช่วยนำเสนอข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ 
                - ช่วยรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในแหล่งข้อมูลเดียวกัน                         - ช่วยให้ผู้เรียนสามารถศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเอง 
                - ช่วยแลกเปลี่ยนและนำเสนอแนวความคิดของผู้เรียนและ                   ผู้อื่น


 2. ด้านการสื่อสาร

        - ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร 
        - เป็นสื่อกลางในรับและส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง 
        - ช่วยกระจายข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหนึ่งไปยังผู้ใช้ทุกคน 







3. ด้านการบริหารประเทศ

          - เป็นช่องทางการรับรู้ข้อมูลจากประชาชน 
          - เป็นช่องทางการนำเสนอข้อมูลไปสู่ประชาชน 
          - ส่งเสริมการแสดงออกซึ่งประชาธิปไตย 
          - เพิ่มทัศนคติที่เกี่ยวกับการบริหารประเทศด้านบวกให้แก่                    ประชาชน 

4. ด้านสังคมศาสตร์

                   - ช่วยเก็บข้อมูลสถิติด้านสังคมศาสตร์ 
                   - ช่วยคำนวณแนวโน้มปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 
                   - ช่วยนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของกราฟ  แผนภูมิ  หรือ                      ภาพ 3  มิติ  ทำให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ                         ได้ง่ายยิ่งขึ้น




5. ด้านวิศวกรรม

                - ช่วยออกแบบและคำนวณโครงสร้างบ้านและอาคาร 
                - สร้างโมเดลจำลองก่อนการสร้างโมเดลจริง 
                - ควบคุมการทำงานด้านก่อสร้างที่มีความละเอียดอ่อน 
                - ช่วยประมวลผลและประเมินสถานการณ์ที่อาจเกิด                            ปัญหาขึ้นในอนาคต 

6. ด้านวิทยาศาสตร์

    - ช่วยเก็บและประมวลผลข้อมูลในงานวิจัยและการทดลองต่าง ๆ 
    - เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ          อุปกรณ์นั้น 
    - ช่วยทำงานวิจัยหรืองานทดลองที่มีความละเอียดและมีขนาดที่                                                            เล็ก ๆได้ 
                                                   - สร้างแบบจำลองงานทดลอง                                                    เพื่อลดความผิดพลาดจากการ                                                                 ทดลองกับของจริง 

 7. ด้านการแพทย์

        - ลดความผิดพลาดและเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยและ                  รักษาโรค 
        - เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพ 
        - ช่วยลดเวลาในการักษาโรค 

8. ด้านอุตสาหกรรม


             - ช่วยควบคุมการผลิตชิ้นงานให้ได้ปริมาณและคุณภาพตาม                  ต้องการ 
             - ช่วยทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัยหรืองานที่มนุษย์ไม่สามารถ                     ทำได้ 
              - ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน 
               - ช่วยคำนวณปริมาณวัตถุดิบ  สินค้า  และกำไร 


9. ด้านธุรกิจ

            - เป็นช่องทางในการนำเสนอสินค้า 
            - ช่วยตรวจสอบและสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ 
            - ขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ที่มีเงินทุนต่ำ 
              ช่วยคำนวณตัวเลขทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำ 
            - เพิ่มความสะดวกในการซื้อและขายสินค้าจากทั่วโลก 

10. ด้านธนาคาร



              - ลดขั้นตอนในการดำเนินงาน 
                - ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้                             บริการธนาคาร  ทำให้สามารถจัดการ                       ด้านการเงินได้ทุกที่ตลอดเวลา 
                - ช่วยเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ในส่วนกลาง                          ทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลของ                            ลูกค้าได้จากทุก ธนาคาร 



11. ด้านสำนักงาน      

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ความบันเทิง                - ใช้สร้างงานนำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจ 
                - ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์เอกสาร 
                - ช่วยเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของผู้บริหาร

12. ด้านความบันเทิง

                - ช่วยให้เกิดความสนุกสนานและทำให้รู้สึกผ่อนคลาย 
                - เพิ่มทักษะการใช้คอมพิวเตอร์
                - ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
                - ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสมอง


💙♥️💚❤️💛🧡🎔🧡💛❤️💚♥️💙💜💙♥️💚❤️💛🧡🎔🧡❤️💛💚♥️💙💜💙♥️💚❤️💛
_________________________________________________________________________________

2.บทบาทของคอมพิวเตอร์

2.บทบาทของคอมพิวเตอร์

               คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในหน่วยงานต่างๆ เนื่องจากคอมพิวเตอร์มีความสามารถ หลาย  ด้าน ทั้งการเก็บข้อมูล คำนวณ วิเคราะห์ ตลอดจนการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ กล่าวได้ว่า         คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทและเป็นส่วนสำคัญในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้
    1. ด้านงานราชการ (government)
        หน่วยงานราชการเป็นหน่วยงานที่นำคอมพิวเตอร์มาใช้งานในการให้บริการด้านต่าง ๆ ตามบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานนั้น เช่น
    กรมสรรพากร ได้วางระบบเว็บไซต์ สำหรับให้บริการคำนวณภาษี เสียภาษี และรายการต่าง ๆ
    ที่ว่าการอำเภอ ใช้คอมพิวเตอร์จัดเก็บข้อมูลการแจ้งเกิด แจ้งตาย ย้ายที่อยู่ หรือทำบัตรประชาชน
    สำนักงานสถิติแห่งชาติ ใช้คอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลสถิติสำมะโนประชากร หรือวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ 
    เป็นต้น


   2. ด้านงานธุรกิจ (business)
        คอมพิวเตอร์ถูกนำมาใช้กับงานด้านธุรกิจ ทั้งการจัดทำเอกสาร นำเสนองานโดยนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้
กันทั่วไป มาใช้กันอย่างแพร่หลาย และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น ห้างสรรพสินค้าใช้คอมพิวเตอร์ใน
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ธุรกิจการทำบัญชีสำเร็จรูป การตรวจสอบยอดคงเหลือของสินค้า งานธนาคารที่บริการฝากเงิน การถอนเงิน - โอนเงิน  เป็นต้น
  3. ด้านการคมนาคมขนส่ง (transportation)
        การคมนาคมและการขนส่ง เช่นการเดินทางโดยเครื่องบิน เรือ รถไฟ รถไฟฟ้า และรถประจำทาง ได้มีการนำ
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนสำคัญในการให้บริการแก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็น การสำรองที่นั่งผ่าน
ระบบคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การออกบัตรโดยสารออนไลน์ การตรวจสอบเส้นทางและตารางการเดิน
ทาง นอกจากนี้ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ในงานจราจร เพื่อช่วยจัดระเบียบเส้นทางจราจรให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย


   4. ด้านงานการศึกษา (education)
        สถาบันทางการศึกษาในปัจจุบันนี้มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียนการสอนโดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 
(CAI) โดยสื่อนี้จะนำรูปแบบของภาพ เสียง ตัวอักษร และเทคนิคต่างๆ ที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วย
ตนเอง และสามารถทบทวนได้ตลอดเวลา และการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต (e-learning) สร้างบทเรียนออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยให้ผู้เรียนที่อยู่ห่างไกล และไม่สะดวกเข้าชั้นเรียน

















5. ด้านงานวิทยาศาสตร์และการแพทย์ (science and medical)

        นักวิทยาศาสตร์และเเพทย์ได้นำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการศึกษา คำนวน ค้นคว้า วิจัย รวมถึงจำลองสิ่งต่าง ๆ ใน
ทางวิทยาศาสตร์ให้อยู่ในรุปแบบที่เข้าใจยิ่งขึ้น และสร้างผลงานทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ เช่น การจำลองรหัสพันธุกรรมจำลองรหัสพันธุกรรม
การพยากรณ์อาการ การเตือนแผ่นดินไหม เป็นต้น

6. ด้านงานวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม (engineering and architecture)
        วิศวกรและสถาปนิกนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการออกแบบ เขียนแบบ หรือจำลองโครงสร้างของงานต่าง ๆ เช่น การ
ออกแบบอาคารพาณิชย์ การสร้างเขื่อนเพื่อรองรับน้ำฝน การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ เป็นต้น โดยคอมพิวเตอร์จะคำนวณ
ที่ซับซ้อน และแสดงผลถึงประสิทธิภาพของงานที่ออกแบบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การคำนวณที่ถูกต้องรวดเร็ว 


    7. ด้านงานอื่น ๆ 
        นอกจากที่กล่าวมาแล้ว คอมพิวเตอร์ยังมีบทบาทด้านอื่น ๆ หลายด้าน เช่น การแสดง งานโฆษณา งานโรงแรม 
การนำเข้า – ส่งอออกสินค้า เป็นต้น โดยคอมพิวเตอร์จะช่วยออกแบบ ลงทะเบียน ตรวจสอบ บันทึกข้อมูล และเผยแพร่
ข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

💜💙💚♥️🧡💛🎔🧡💛❤️💚♥️💙💜💙♥️💚❤️💛🧡🎔🧡💛❤️💚♥️💙💜💙♥️❤️💚💛
_________________________________________________________________________________

1.หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คอมพิวเตอร์
1.หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์

หลักการทำงานเบื้องต้นของระบบคอมพิวเตอร์ เริ่มจากผู้ใช้ทำการกรอกข้อมูลหรือคำสั่งผ่านทางอุปกรณ์รับข้อมูล(Input Devices) ซึ่งข้อมูลหรือคำสั่งต่างๆที่รับเข้ามาจะถูกนำไปเก็บไว้ที่หน่วยความจำหลัก (Memory) จากนั้นก็จะถูกนำไปประมวลผลโดยหน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing) แล้วนำผลที่ได้จากการประมวลผลมาเก็บไว้ในหน่วยความจำแรม พร้อมทั้งแสดงออกทางอุปกรณ์แสดงผล (Output Devices) ดังนั้นระบบคอมพิวเตอร์จึงประกอบด้วย 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนอุปกรณ์รับข้อมูล ส่วนประมวลผลกลาง หน่วยความจำ และอุปกรณ์แสดงผล

คอมพิวเตอร์มีหลักการทำงานอยู่ 4 ขั้นตอน คือ

   1. รับข้อมูล คอมพิวเตอร์จะรับข้อมูลและคำสั่งผ่านอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลและคำสั่ง คือ คีย์บอร์ด เมาส์          และสแกนเนอร์ เป็นต้น



    2. ประมวลผลข้อมูล หรือ CPU (Central Processing Unit) ใช้คำนวณและประมวณผลคำสั่งต่างๆ ตาม        โปรแกรมที่กำหนด

    3. จัดเก็บข้อมูล คอมพิวเตอร์จะเก็บข้อมูลลงในอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูล เพื่อให้สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ใน         อนาคต เช่น ฮาร์ดดิสก์ ดิสเกตด์ แผ่นซีดี และอุปกรณ์เก็บข้อมูลชนิดพอร์ตยูเอสบีไดร์ ซึ่งหน่วยเก็บ         ข้อมวลนี้สามารถ
               แบ่งออกได้ 2 ประเภทท คือ
        3.1 หน่วยควมจำหลัก สามารถแบ่งตามลักษณะการเก็บข้อมูลได้ดังนี้คือ
         (3.1.1) หน่วยความจำแบบลบเลือนได้ คือ หากเกิดไฟดับระหว่างใช้งาน ข้อมูลจะหาย เรียกว่า แรม          (RAM)
         (3.1.2) หน่วยความจำแบบลบเลือนไม่ได้ คือ หน่วยความจำถาวร แม้ไฟจะดับข้อมูลก็จะยังอยู่                   เหมือนเดิม เรียกว่า รอม (ROM)
        3.2 หน่วยความจำสำรอง คือ หน่วยความจำที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้นได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ ดิสเกตด์ แผ่นซีดี และอุปกรณ์เก็บข้อมูลชนิดพอร์ต ยูเอสบี

     4. แสดงผลข้อมูล เมื่อทำการประมวลผลแล้ว คอมพิวเตอร์จะแสดงผลลัพธ์ผ่านอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่              แสดงข้อมูล เช่น หากเป็นรูปภาพกราฟิกก็จะแสดงผลทางจอภาพ ถ้าเป็นงานเอกสารก็จะแสดงผล          ทางเครื่องพิมพ์ หรือหากเป็นในรูปแบบของเสียงก็จะแสดงผลออกทางลำโพง เป็นต้น



                          คลิปหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์                        


💜💙💚♥️🧡💛🎔🧡💛❤️💚♥️💙💜💙♥️💚❤️💛🧡🎔🧡💛❤️💚♥️💙💜💙♥️❤️💚💛
_________________________________________________________________________________